ในยุคของโซเชียลมีเดีย ติ๊กต็อก (TikTok) ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับขายของในการโปรโมตสินค้าและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ติ๊กต็อกมีผู้ใช้กว่าพันล้านคน ทำให้ติ๊กต็อกกลายเป็นช่องทางและโอกาสยิ่งใหญ่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าในการขายของ สร้างภาพลักษณ์ให้สินค้า และเชื่อมต่อกับผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าเราในอนาคต ฟินนี่คิดว่าถ้าเราเรียนรู้วิธีขายบนติ๊กต็อกแล้ว เพื่อนๆ ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อสร้างคอนเท้นที่น่าสนใจ ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ และเพิ่มยอดขายได้ รวมถึงน่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการเพิ่มยอดขายและขยายธุรกิจได้เลย วันนี้ฟินนี่เลยเอา 7 เทคนิคเพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ดีขึ้นผ่านติ๊กต็อกมาฝากกันจ้า แต่มีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย!

1.ทำให้วิดีโอสั้นเข้าไว้ 

วิดีโอติ๊กต็อก มีความยาวจำกัดอยู่ที่ 60 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมในการโชว์สินค้าและดึงดูดความสนใจของผู้ชม ฉะนั้นวิดีโอเราต้องอยู่ใน 60 วินาที ซึ่งจริงๆ แล้วยิ่งสั้นก็ยิ่งดี เพราะทุกวันนี้คนดูใช้เวลาดูน้อยมากๆ ยิ่งเราทำนานแล้ววิดีโอเราเยิ่นเย้อเกินไป คนก็จะกดผ่านและไม่ดูนั่นเอง เพื่อนๆ อาจจะลองถ่าย 15 วินาที 30 วินาที หรือ 60 วินาที แล้วดูว่าผู้ชมดูวิดีโอเราชอบความยาวประมาณไหน แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เพื่อนๆ ต้องดูให้แน่ใจว่าวิดีโอของเรานั้นสั้นก็จริงแต่เนื้อหาก็ต้องน่าสนใจด้วย พร้อมข้อความที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินค้า ฟินนี่ขอแนะนำวิธีที่ดีในการเข้าถึงลูกค้า คือการใช้เทคนิคเล่าเรื่องเกี่ยวกับข้อดีหรือความพิเศษของสินค้าให้รวดเร็วและชัดเจนที่สุด 

2.ใช้วิดีโอและเสียงคุณภาพดี 

ติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่โชว์ภาพ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรใช้วิดีโอที่มีคุณภาพดีเพื่อโชว์สินค้า การใช้กล้อง แสง และเสียงคุณภาพดีสามารถทำให้วิดีโอเราดูน่าสนใจและแตกต่างจากเจ้าอื่นได้ โดยฟินนี่แนะนำว่าวิดีโอควรดึงดูดสายตาด้วยสีสันที่สดใส เสียงควรมีคุณภาพดี พร้อมเสียงพากย์ที่ชัดเจนและกระชับ รวมถึงใช้เพลงฮิต หรือเพลงที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมภาพในวิดีโอด้วย 

3.ใช้เทคนิคในวิดีโอแบบสร้างสรรค์ 

ติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่ชอบความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนๆ ควรใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ การใช้เทคนิคการตัดต่อที่สร้างสรรค์สามารถทำให้วิดีโอมีส่วนร่วมและสนุกสนานมากขึ้นสำหรับผู้ชม ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการขาย ตัวอย่างเช่น การตัดภาพแบบกระโดด การทำภาพสโลว์โมชั่นหรือทำให้ภาพช้าๆ และไทม์แลปส์ หรือการบันทึกภาพแบบนานๆ แต่ให้อยู่ในระยะเวลาสั้นๆ ไวๆ  การทำวิดีโอแบบนี้สามารถทำให้วิดีโอน่าสนใจและมีความหลากหลายมากขึ้นน้า แต่ถ้าเพื่อนๆ ทำไม่เป็น ฟินนี่ก็แนะนำว่า การถ่ายตรงๆ ขายตรงๆ ด้วยภาพและเสียงชัดๆ ก็พอจ้า 

4.ใช้แฮชแท็ก 

แฮชแท็กก็เป็นส่วนสำคัญของติ๊กต็อกน้า ฟินนี่แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรใช้แฮชแท็กเพื่อช่วยให้คนอื่นๆ เข้าถึงวิดีโอเรามากขึ้น แฮชแท็กสามารถทำให้คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าเจอวิดีโอเรามากขึ้น และเพื่อนๆ ควรใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องและกำลังมาแรงเพื่อให้แน่ใจว่าวิดีโอของเราเข้าถึงผู้ชมที่ตรงกับสินค้าเรา เพื่อสร้างโอกาสให้คนกลุ่มนี้กลายมาเป็นลูกค้าเราในที่สุด 

5.ใช้คำพูดกระตุ้นการตัดสินใจ 

คำกระตุ้นการตัดสินใจคือข้อความที่กระตุ้นให้ผู้ชมมีการซื้อสินค้า ฟินนี่บอกเลยว่าคำกระตุ้นที่ชัดเจนและกระชับสามารถเพิ่มโอกาสในการขายและควรรวมไว้ในวิดีโอ ตัวอย่างเช่น เพื่อนๆ อาจจะใส่รหัสส่วนลด ที่สามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าเราได้ลงไปในวิดีโอเพื่อปิดการขาย   

6.ใช้คอนเท้นที่ลูกค้าทำเอง 

คอนเท้นที่ลูกค้าเราทำขึ้นเองเป็นวิธีที่ดีมากๆ สำหรับเจ้าของร้าน เทคนิคนี้จะเป็นการสนับสนุนให้ลูกค้าสร้างวิดีโอที่แสดงสินค้าเราและแชร์มันบนหน้าติ๊กต็อกของพวกเขาเอง เราสามารถจูงใจลูกค้าด้วยการเสนอส่วนลดหรือรางวัลอื่นๆ สำหรับการทำคอนเท้นและแชร์วิดีโอ โดยเริ่มแรก เราอาจจะลองคุยหรือถามลูกค้าเราดูก่อนว่า พวกเค้าสามารถถ่ายรีวิวแล้วลงให้เราได้ไหม โดยจะให้ส่วนลดเป็นการแลกเปลี่ยน ถ้าลูกค้าเราตกลงยินดีก็เยี่ยมเลยจ้า ฟินนี่บอกเลยว่าเทคนิคนี้สามารถเพิ่มการเข้าถึงวิดีโอและยังเป็นหลักฐานถึงคุณภาพและความนิยมของสินค้าเราอีกด้วย  

7.ใช้คนที่เป็นที่รู้จัก หรือคนที่มีความน่าเชื่อถือ 

หากเพื่อนๆ มีงบ ฟินนี่แนะนำเทคนิคการใช้คนดัง เซเลบ หรือกลุ่มคนที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีอิทธิพลในด้านนั้นๆ มาช่วย หากคนเหล่านี้มีผู้ติดตามจำนวนมากและสามารถช่วยผู้ติดตามตัดสินใจซื้อได้ โดยเพื่อนๆ สามารถจ้างคนดังพวกนี้โดยส่งสินค้าให้พวกเขารีวิว หรือจะให้กลุ่มคนพวกนี้สร้างวิดีโอที่แสดงสินค้าเราให้แก่ผู้ติดตามของพวกเค้าก็ได้ด้วย แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่มีงบก็ไม่เป็นไรน้า การถ่ายวิดีโอด้วยตัวเองลงบ่อยๆ สม่ำเสมอ ก็ช่วยได้เหมือนกันจ้า  

ติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังสำหรับคนขายของเพื่อทำการตลาดและขายของเราให้ลูกค้า ฟินนี่เชื่อว่าการใช้เทคนิคพวกนี้ จะช่วยให้มีคนมาสนใจสินค้าของเพื่อนๆ มากขึ้นได้ และต้องไม่ลืมว่า วิดีโอในติ๊กต็อกของเราไม่ควรปรุงแต่งมากเกินไป และควรมีอารมณ์ขัน สนุก และน่าสนใจ ฟินนี่เชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ทำได้แบบนี้ ก็มีโอกาสที่ผู้ชมวิดีโอของเราจะกลายเป็นลูกค้าที่จะมาซื้อของเพื่อนๆ ในอนาคตมากขึ้นแน่นอน 

สุดท้ายนี้..

การสร้างรายได้ใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ทางที่ดีที่สุดควรมาพร้อมกับการวางแผนการจัดการเงินที่ดี เพื่อนๆสามารถทำตามง่ายๆอ่านต่อที่บทความ: 6 เทคนิค การจัดการเงิน ยังไงให้อยู่รอด ทำง่ายๆเริ่มได้ด้วยตัวเองตอนนี้